ชิปปิ้ง ติดตามสถานการณ์การระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน บีบให้ทุกคนต้องอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป
หลายคนอาจต้องถูกกักให้อยู่ในพื้นที่จำกัด การเข้าสังคมทำให้ทุกคนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ทั้งหมด โดยต้องอยู่ห่างกันหรือเรียกอีกอย่างว่า Social Distancing เมื่อสังคมมนุษย์ต้องแยกกัน ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสและผลกระทบที่อาจได้รับจนยากเกินคาดเดา
Only Logistics มีข้อมูลแบบสอบถามจำนวนมากที่ได้รับการเผยแพร่ เพื่ออธิบายถึงผลกระทบจากการระบาดครั้งใหญ่นี้ ครอบคลุมถึงประเด็นสำคัญในทางปฏิบัติเพื่อรับมือ แต่สิ่งที่แตกต่างสำหรับผู้คนทั่วโลกคือ ความแตกต่างระหว่างประเทศ ผู้คนอยู่ที่ไหนในช่วงของการเกิดโรคระบาด ซึ่งในปัจจุบัน สเปนและอิตาลีได้กลายเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของโรค ขณะเดียวกัน ประเทศจีนก็ได้รับบทเรียนจากการระบาดของ COVID-19 เช่นกัน
ในการตอบแบบสอบถาม ชิปปิ้งพบข้อมูลว่า ผู้คนมากมายยังมีความกังวลที่จะอยู่ใกล้กับคนแปลกหน้า วิธีการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจึงมาในรูปแบบของ Social Distancing (เว้นระยะห่างการอยู่ใกล้กัน ซึ่งควรอยู่ห่างกันอย่างน้อย 1.5-2 เมตร) และลดการเดินทางนอกบ้านมากขึ้น จุดนี้เองได้สะท้อนในเรื่องของการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชาวอเมริกัน อังกฤษ และเยอรมัน จะมีความกังวลและปฏิบัติเช่นเดียวกับจีน แต่สำหรับเนเธอร์แลนด์กลับมองเป็นผลกระทบเชิงไตรมาสเท่านั้น ผู้คนในสังคมบางแห่งยังมีความกังวลน้อยกว่าเสียด้วยซ้ำ
ในออสเตรเลียได้รับผลกระทบมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรหรือเท่ากับ 56% ส่วนในสหรัฐอเมริกา เยอรมนี และสิงคโปร์ต่างมีตัวเลขไม่ได้ต่ำกว่ากันมาก ในประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างรุนแรง จำนวนตัวเลขที่ผู้คนตื่นตัวจึงแตกต่างจากที่อื่นอย่างสิ้นเชิง เช่น 27% ในอิตาลี 33% ในจีน และยังมีประเทศอื่นๆ ที่ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างระมัดระวัง ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี
นอกจากนี้ ชิปปิ้งจีนพบว่าแบบสอบถามยังมีคำถามทั่วไปเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสังคม กว่าครึ่งหรือประมาณ 58% มีความเห็นว่าในอนาคตจะมีการระบาดครั้งใหญ่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหากเป็นคนที่ไม่ยอมกักตัว เที่ยวเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ก็อาจจะทำให้เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้างเพิ่มขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่กับทุกคนที่จะทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ เมื่อสามารถหลีกเลี่ยงและใช้มาตรการป้องกันได้
แม้ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น และจะทำอย่างไรให้กลับไปสู่สภาวะปกติได้ในเร็ววัน ในยุโรปเป็นที่คาดการณ์กันว่าอาจใช้เวลานานราว 3 เดือนหรือมากกว่านั้น การใช้มาตรการอย่างเข้มงวดที่เกิดขึ้นหลังเกิดวิกฤต Covid-19 นั้น แสดงให้เห็นว่าสหราชอาณาจักร,ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีความกังวลกับสถานการณ์ในครั้งนี้มากที่สุด โดย 7 ใน 10 คนคิดว่าจะใช้เวลานานกว่าที่คิด ขณะที่จีนและสเปนเองต่างมีความรู้สึกแบบนั้นเช่นกัน เฉลี่ยถึง 30%
คำถามสุดท้ายและคำตอบที่ได้รับจากผู้คนกล่าวว่าชีวิตยังไม่กลับไปสู่ปกติ คัดมาเพียง 3% จากกลุ่มตัวอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุ 45 ปี (4%) มากกว่าผู้ที่มีอายุระหว่าง 16-34 ปี (2%) ความคิดของทุกคนต่างคาดหวังว่านี้ไม่ใช่เรื่องปกติแบบใหม่สำหรับทุกคน ทุกคนมองเห็นว่ามีความเป็นไปได้น้อยมากที่โลกจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง