ชิปปิ้งจีน 5 วิธีในการลดต้นทุนการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพในปี 2020

ชิปปิ้งจีน 5 วิธีลดต้นทุน onlylogistics ชิปปิ้งจีน ชิปปิ้งจีน 5 วิธีในการลดต้นทุนการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพในปี 2020 5                                      onlylogistics 768x402

ชิปปิ้งจีน เมื่อวิกฤตการณ์ของโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วโลก และเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดความปั่นป่วนเป็นวงกว้าง

ส่งผลให้ธุรกิจบริการและการขนส่งหรือนำเข้าสินค้า (ชิปปิ้งจีน) ที่น่าจะเติบโตกลับชะงักงัน ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับต้นทุนการขนส่ง และวิธีที่จะสามารถลดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

จริงๆ แล้ว อาจมีสาเหตุหลายประการ ที่ทำให้ต้นทุนการขนส่งหรือบริการนำเข้าสินค้า (ชิปปิ้งจีน) พุ่งสูงขึ้น เช่น การขาดการวางแผนที่ดี การตัดสินใจที่ผิดพลาด ปัญหาเรื่องการส่งมอบที่ล่าช้า จนทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจในการให้บริการ และท้ายที่สุดคือทำให้ธุรกิจเกิดการสูญเสียมหาศาล

ดังนั้น จะมีวิธีจัดการอย่างไรเพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้ ต่อไปนี้เป็นสิ่งสำคัญ 5 ประการ ที่ควรนำมาพิจารณา

  1. วางแผนเส้นทางการเดินทางที่ดีที่สุด

เส้นทางการเดินทางที่ไม่ดี ย่อมหมายถึง ผู้ขนส่งต้องใช้เวลายาวนานมากขึ้นบนถนน ที่อาจจะกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ปรับปรุง เป็นเส้นทางที่มีการจราจรติดขัดหรือยาวไกล ส่งผลให้มีการใช้เชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งค่าน้ำมันและค่าทำงานล่วงเวลาของคนขับ

ดังนั้น จึงควรอัพเดทเส้นทางที่ต้องใช้ในการคมนาคมและมีการปรับปรุงอยู่เสมอ นอกจากนี้ ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่นำมาใช้คำนวณหาเส้นทางที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้การวางแผนเส้นทางเป็นไปโดยอัตโนมัติ และทำให้การจัดการด้านโลจิสติกส์เป็นไปอย่างราบรื่น

โดยซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะวางแผนเส้นทางที่เหมาะสม คำนึงถึงสภาพการจราจร ดินฟ้าอากาศ ตลอดจนเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตกในช่วงเวลาเดินทาง ทำให้ไม่เสียเวลาในการเดินทางและพนักงานขับรถยังสามารถไปถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น และประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้นด้วย

  1. ตรวจสอบผู้ขับขี่

การวางแผนเส้นทางที่ดีที่สุด อาจเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด แต่หากพนักงานขับรถไม่ปฏิบัติตามแผนที่วางเอาไว้ เช่น หยุดรถเป็นการส่วนตัว ไม่ได้ใช้งานนานเกินไป เบรกบ่อย หรือเร่งความเร็วอย่างรุนแรง เพื่อชดเชยเวลาส่งมอบที่ล่าช้าหรือตามการนัดหมาย การกระทำดังกล่าว จะนำไปสู่การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มากขึ้นหรืออาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งหมายความว่าค่าใช้จ่ายความเสียหายจะเพิ่มขึ้นด้วย

ดังนั้น ควรมีการติดตามผู้ขับขี่และยานพาหนะ รวมทั้งทำการตรวจสอบอยู่เสมอว่าผู้ขับขี่ทำอะไรบนท้องถนน ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้แอปพลิเคชันติดตามอย่าง GPS เพื่อตรวจสอบยานพาหนะแบบเรียลไทม์และตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็ว เพื่อแจ้งเตือนทันทีเมื่อพนักงานขับรถใช้ความเร็วสูงขึ้น ตัวติดตามดังกล่าวยังช่วยปกป้องยานพาหนะจากการถูกโจรกรรมอีกด้วย นอกจากนี้ หากใช้ซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เส้นทางที่มาพร้อมกับการติดตามแบบ GPS จะช่วยให้วางแผนงาน การเลือกเส้นทาง และติดตามความคืบหน้าของผู้ขับขี่ได้

  1. ให้ความรู้และรางวัลกับตัวแทนภาคสนาม

พนักงานขับรถและพนักงานภาคสนาม ต่างเป็นผู้มีส่วนส่วนได้ส่วนเสียในการขนส่งมากที่สุด ดังนั้น ควรอธิบายให้พวกเขาได้เข้าใจว่าเหตุใด จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ธุรกิจต้องประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง รวมไปถึงวิธีที่พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมในการลดค่าใช้จ่ายลงได้ จากนั้นให้รางวัลแก่พวกเขาสำหรับการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจในการประหยัดที่มากยิ่งขึ้น

  1. หมั่นเช็คสภาพและบำรุงรักษายานพาหนะให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ

ความเสียหายของยานพาหนะครั้งหนึ่งอาจเป็นอันตรายต่อแผนงานทั้งหมด และค่าใช้จ่ายในการหยุดงานอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละที่ ดังนั้น ทางบริษัทขนส่งจึงต้องหมั่นเช็คสภาพและเข้ารับบริการบำรุงรักษาอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพและทำให้รถอยู่ในสภาพที่เหมาะสม สามารถใช้งานได้ตามปกติในระยะทางที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากบริษัทขนส่งมีการวิเคราะห์และวางแผนการเดินทาง เช่น ระยะทางทั้งหมดที่เดินทาง การหยุด และเชื้อเพลิงที่ใช้ไป ฯลฯ จะเป็นการช่วยให้สามารถระบุได้ว่ายานพาหนะต้องการการบำรุงรักษาทุกๆ กี่กิโลเมตร  และสามารถคาดการณ์ได้อย่างรวดเร็วว่าจะต้องมีการบำรุงรักษากี่ครั้ง

  1. ปรับปรุงและหาทางแก้ปัญหาการส่งมอบที่ล้มเหลว

การจัดส่งที่ล้มเหลวทุกครั้ง จะส่งผลให้กำไรลดลง พนักงานขับรถอาจไปถึงตรงตามเวลา หากแต่ลูกค้านั้นไม่อยู่รับ หรือลูกค้านั้นไม่ได้รับสินค้า ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการจัดส่งและการนัดหมายอื่นๆ

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการปรับปรุงความสำเร็จของการจัดส่งครั้งแรกคือ ให้ลูกค้าเลือกวิธีการส่งหรือวิธีการจัดส่งในรูปแบบที่ต้องการ สิ่งนี้จะช่วยมั่นใจได้ว่าลูกค้าสามารถอยู่รับสินค้าได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลาที่พนักงานมาถึงตรงตามเวลา นอกจากนี้ ควรมีระบบติดตามสถานะสินค้า การจัดส่งพัสดุภัณฑ์หรือแจ้งให้ลูกค้าทราบเมื่อมีพัสดุใกล้มาถึง ปัจจุบัน บริษัทขนส่งสินค้าที่เป็นมืออาชีพ มักจะมีระบบติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้าเพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจและเช็คได้ตลอดเวลาว่าสินค้าอยู่ในสถานะใด อาทิ บริษัท Only Logistics ผู้ให้บริการนำเข้าสินค้าจากจีน (ชิปปิ้งจีน) อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ที่มีระบบติดตามสถานสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งระบบ Call Center ที่ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-18.00 น.

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *