1688 ตามติดพฤติกรรมช็อปปิ้งออนไลน์ ในช่วงวิกฤตโรคระบาด Covid-19

1688 ตามติด ช็อปออนไลน์ 1688 1688 ตามติดพฤติกรรมช็อปปิ้งออนไลน์ ในช่วงวิกฤตโรคระบาด Covid-19                                                      768x402

1688 ได้ติดตามสถานการณ์ Covid-19 ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากต้องกักตัวอยู่กับบ้านและงดออกนอกบ้านชั่วคราว ทางเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้คือการช็อปปิ้งออนไลน์

เพื่อตอบสนองความต้องการ ความจำเป็น และคลายเครียด

พฤติกรรมดังกล่าว ทำให้ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของจีนเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านยอดขายของผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 4 เท่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

Only Logistics มีข้อมูล อย่างเฉกเช่น Amazon ผู้ค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 1 ของโลกในเวลานี้ ได้ออกมาตรการสำคัญคือการห้ามปล่อยให้ผลิตภัณฑ์หมดสต็อก และหากพบว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ในสต็อกนานเกิน 30 วัน จะถูกปฏิเสธและไม่มีประวัติการขายใดๆ เกิดขึ้น ต่อให้มีผลิตภัณฑ์นั้นๆ เพิ่มเข้ามาแล้วในสต็อก ทั้งนี้ เนื่องจากว่า Amazon เกรงว่าจะเกิดการฉวยโอกาสในการขึ้นราคาของผลิตภัณฑ์จากการกักตุนสินค้าในช่วงที่ Coronavirus ระบาดอยู่

อย่างไรก็ตาม หาก Amazon ตรวจสอบพบว่ามีร้านค้าใดที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาในระหว่างนี้ ก็จะทำการลบรายการผลิตภัณฑ์เหล่านั้นออกจากระบบทันที นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดหากมีการแอบอ้างว่าผลิตภัณฑ์ใดสามารถรักษาไวรัสได้ แต่หากคุณภาพสินค้านั้นกลับไม่ได้มาตรฐานเรื่องความปลอดภัยหรือมีการโฆษณา แอบอ้างเกินจริงจนอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ทาง Amazon จะดำเนินการจัดการลบโดยทันที ซึ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ได้ทำการลบรายการสินค้ามากกว่า 1 ล้านรายการ เนื่องจากมีการละเมิดนโยบายดังกล่าวและเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในช่วงวิกฤต

ดังนั้น 1688 จึงพบว่าแบรนด์ผู้จำหน่ายสินค้าอันเกี่ยวข้องกับสุขอนามัยและการเผชิญหน้ากับโรคระบาด จึงเกิดเป็นกระแสดั่งคลื่นพายุของยอดขายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมหาศาล เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วพบว่ายอดขายของเครื่องฆ่าเชื้อในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้น 54% ,ยอดขายเครื่องวัดอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 34% และยอดขายน้ำยาฆ่าเชื้อเพิ่มขึ้น 19%

การส่งมอบต่อห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการช็อปปิ้งออนไลน์ ทำให้ความต้องการในการส่งมอบเกิดความล่าช้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ทำงานที่บ้านหรือกำลังหลีกเลี่ยงติดต่อกับผู้อื่น ผู้บริโภคพยายามที่จะช็อปปิ้งผลิตภัณฑ์จาก Amazon ในวันที่ 5 มีนาคม ได้มีข้อความแจ้งเตือนเรื่องความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จึงกลายเป็นตัวกำหนดระยะเวลาในการจัดส่งที่แตกต่างกัน สิ่งนี้นับเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความรวดเร็วของการขนส่ง โดยทาง Amazon ให้คำมั่นว่าจะจัดส่งฟรีเป็นเวลา 2 ชั่วโมง สำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภท ขณะเดียวกันซัพพลายเออร์รายใหญ่อื่นๆ เช่น Walmart และ Target ได้พยายามแข่งขันเพื่อหาทางเลือกที่คล้ายคลึงกัน

แบรนด์มีกำลังพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นหรือไม่?

ว่ากันว่า Amazon ได้เพิ่มการลงทุนจำนวนมากสำหรับการจัดส่งแบบ 1 วันถึง อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อ Amazon คือ พ่อค้าใน Amazon หลายคนพากันพึ่งพาซัพพลายเออร์จากจีน และเมื่อมีการปิดโรงงานในประเทศจีน จึงทำให้การช็อปปิ้ง และการซื้อผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต้องหยุดชะงัก ในขณะที่ร้านขายของชำและสินค้าเพื่อสุขภาพมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

ด้านบริษัทจัดส่งอาหารบางแห่ง เช่น Postmates และ DoorDash ได้เปิดทดสอบหรือมีตัวเลือกการจัดส่งแบบไม่สัมผัส เช่น 32% ของผู้บริโภคลดความถี่ในการรับประทานอาหารที่ร้าน เนื่องจากหวาดกลัว Coronavirus เป็นต้น

แบรนด์ต้องปรับตัวอย่างไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น?

การปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์และเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ในสต็อก เป็นเพียง 2 อย่างที่ควรทำสำหรับนักการตลาด เพราะการระบาดนั้นยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับค่าใช้จ่ายโดยรวมในการโฆษณากลับลดลงอย่างมาก แต่การจ่ายโฆษณาทางทีวีอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่อยู่บ้านเพื่อทำงานและติดตามข่าวสารบนทีวีแทน ส่งผลให้มีการเปลี่ยนการซื้อโฆษณาทางสื่อไปยังแพลตฟอร์มวิดีโอแทน เช่น โทรทัศน์ และ Youtube ถือเป็นการสื่อสารที่ดี

1688 สามารถสรุปจากข้อมูลได้ว่า ความโปร่งใสเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ผู้บริโภคกำลังมองหาจากแบรนด์สินค้า การจัดการเชิงรุกกับผู้บริโภคที่ผิดหวังและเกิดความกลัวในช่วงวิกฤต Covid-19 เช่น ความล่าช้าในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหมดสต็อก เป็นต้น หากแบรนด์สินค้าสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ จะช่วยสนับสนุนชื่อเสียงของแบรนด์และส่งเสริมให้เกิดความภักดีในผู้บริโภค อาจมีการเผยแพร่เกี่ยวกับวิธีป้องกัน Coronavirus ให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการระบาดของ Covid-19 ส่งผลให้ยอดดาวน์โหลดในจีนช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019 ถึง 40%

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *