นำเข้าสินค้าจากจีน จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคยุคใหม่มีความคาดหวังที่สูงขึ้น ระบบซัพพลายเชนเองก็กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล
เพื่อให้บริการที่ยอดเยี่ยมภายในระยะเวลาที่ลดลงและต้นทุนต่ำลง
ผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์จึงต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และต่อไปนี้คือเทรนด์ที่กำลังมาแรงในวงการโลจิสติกส์จากการสำรวจของ No.1 Packaging ผู้เชี่ยวชาญและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์สัญชาติอังกฤษ
- โลจิสติกส์เพื่อสิ่งแวดล้อม
กลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการทางธุรกิจทั่วโลก คือ การผสมผสานวิธีการที่ยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน มันพิสูจน์ได้ว่ามีความสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งในปี 2020 บริษัทส่วนใหญ่ ทั้งตัวอาคารภายนอกและอุปกรณ์ภายในจะถูกเลือกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการลดต้นทุนการขนส่ง (และพลังงาน)
บริษัทโลจิสติกส์และผู้ให้บริการนำเข้าสินค้าจากจีนนั้นได้ตระหนักมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังส่งผลต่อกลยุทธ์โดยรวมอีกด้วย ทำให้เกิดแรงจูงใจในการรักษาโลก สิ่งแวดล้อม และกำจัดมลพิษ ดังนั้นโลจิสติกส์เพื่อสิ่งแวดล้อมจะไม่เพียงแค่ช่วยสภาพแวดล้อมในวงกว้างเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นกลยุทธ์ในการปรับปรุงชื่อเสียงของบริษัทหรือองค์กร ส่งผลต่อผู้บริโภคให้เกิดความภักดีต่อแบรนด์ และช่วยลดต้นทุนห่วงโซ่อุปทานในระยะยาว
- การบูรณาการทางเทคโนโลยี
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยียังคงมีบทบาทสำคัญสำหรับกระบวนการของซัพพลายเชน เช่น ผู้บริโภคจองการจัดส่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์ จากนั้นมีการพัฒนาระบบติดตามสถานะสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ความแม่นยำขั้นสูงของอุปกรณ์ GPS ยังช่วยเพิ่มผลผลิตและทำให้ผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจในบริการเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทมีประสิทธิภาพในการติดตามตำแหน่งของรถขนส่งได้ตลอดการเดินทาง
บริษัท Amazon ได้ทดสอบการส่งมอบด้วยระบบเสียง ซึ่งอยู่เหนือการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ผสมผสานเข้ากับระบบโลจิสติกส์ ทำให้เกิดการพัฒนารูปแบบใหม่ๆ ที่เราจะได้เห็นกันในปีนี้
- เป็นพันธมิตรหรือหุ้นส่วนทางธุรกิจ
สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ จุดสนใจหลักของกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ คือ ลดต้นทุนค่าส่ง ขณะเดียวกันยังให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยเช่นกัน ดังนั้นการมีพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ของบุคคลที่สาม (3PL : Third Party Logistics) ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังสามารถลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางเรือได้ เนื่องจากพันธมิตรดังกล่าวมีความสามารถในการลดความล่าช้าในการจัดส่ง
วิธีการทำงานเช่นนี้ ทำให้ธุรกิจมีแนวโน้มที่จะใช้บริการจากบุคคลภายนอกหรือ Outsources มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการสั่งซื้อออนไลน์ การส่งคืนสินค้า การประมวลผล การประกอบผลิตภัณฑ์ สำหรับบริการเหล่านี้ Outsources จะเป็นตัวช่วยที่ดีและสามารถสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานกับลูกค้าได้เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ทำให้สร้างผลกำไรได้มากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการโลจิสติสก์จึงจำเป็นต้องมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านบริการต่างๆ เหล่านี้เอาไว้ และผูกสัมพันธ์เพื่อการร่วมงานในอนาคตได้อย่างราบรื่น
อนาคตได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แม้ว่าเราจะไม่สามารถคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด แต่การนำแนวโน้มข้างต้นมาใช้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัท และเป็นประโยชน์ต่อผู้นำเข้าสินค้าจากจีน จะช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ในปี 2020 นี้
อย่างไรก็ตามการเลือกใช้บริการโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน สามารถเรียนรู้ 7 วิธีเลือกใช้บริการขนส่ง ที่ใช่และได้คุณภาพได้ เพื่อให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือและลูกค้าต่างไว้วางใจใช้บริการ